• About

brandchatz

~ World changing by branded

brandchatz

Category Archives: brand value

ปัญหาการทำ personal brand แล้วไม่เวิร์คมัน

26 Sunday Aug 2018

Posted by brandchatz in brand value, personalbrand, Uncategorized

≈ Leave a comment

ปัญหาหลักๆของคนที่ทำ personal brand แล้วไม่รุ่ง

การทำ personal brand นั้น เดี๋ยวนี้ทุกคนรู้แล้วว่า มีประโยชน์ต่อธุรกิจ

แต่ส่วนใหญ่ มักจะมีปัญหากับตัวเอง กับการดึงตัวเองออกมา ไม่รู้ว่า ตรงไหนจะเป็นจุดสำคัญ และดีเพียงพอต่อการสร้างความน่าสนใจ

ผมรวบรวมข้อที่เป็นปัญหาใหญ่ ประมาณ 5 ข้อที่คนมักจะติด และไปไม่ได้ เรียกว่า ถ้า แก้ปัญหานี้ได้ การสร้าง personal brand ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ในอนาคตต่อธุรกิจ

มาดูข้อปัญหากัน

1. ความชัดเจน ในเรื่องของ เราเป็นใคร จุดแข็ง เราคืออะไร เรามีบุคลิกอย่างไร

จากเท่าที่ผมเห็น ปัญหาในการหาเรื่อง ความสามารถ และจุดแข็ง มักไม่ค่อยเท่าไหร่ ยิ่งคนที่มาจากสายอาชีพ ชัดๆ เช่น คุณหมอ ทนายความ ครู นักดนตรี ศิลปิน คนกลุ่มนี้มีจุดแข็งด้านทักษะ แต่เรื่องของบุคลิกที่นำเสนอนี่แหล่ะ เลือกไม่ได้ หรือเลือกแล้ว ก็ไม่เหมาะกับตัวเอง

2.การเลือกสื่อและเรื่องราว ในการเล่าเพื่อสนับสนุน บุคลิกตัวเอง

คนบางคน ก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องสร้างตัวตนบน Facebook ก็ได้

การสร้าง personal brand ไม่จำเป็นจะต้อง ใส่สูท แต่งชุดแพงๆ เสมอไป

การค้นหาบุคลิก และจุดเด่นที่ใช่ คือ คีย์สำคัญ ที่จะระบุได้ว่า ตัวเราเหมาะกับการเล่าเรื่องแบบไหน ใช้สื่ออะไรมากกว่า

บางครั้ง ใช้สัญลักษณ์ที่มีความหมายแทนตัวเรา ก็อาจจะได้พลังมากกว่าที่เอาตัวเราเองออกมาก็เป็นได้ก็ได้

3. ความสม่ำเสมอ

ข้อนี้คือจุดชี้ตายของมือใหม่ ทำ personal brand ช่วง 1-3 เดือนแรก มักจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่หลังจากสามเดือน น้ำที่เคยพุ่งแรง ก็อ่อนลง และก็กลายเป็น หายไปในที่สุด

เวลาและความสม่ำเสมอ คือจุดวัดใจของคนที่ต้องการได้มูลค่า และคุณค่าจากตัวของคุณ

อยากให้คุณลองนึกถึง หนังสือพิมพ์ รายการวิทยุ หรือ รายการทีวี ที่ออกอากาศในเวลานั้น ซ้ำๆ จนคนจำได้ คุ้นเคย คุณก็ต้องทำแบบนั้นเหมือนกัน

4.ทักษะการนำเสนอตัวตนของเรา

การฝึกฝนทักษะในการสื่อสารการทำ personal brand นั้น ดีที่สุด ต้องเริ่มที่ตัวเรา ตั้งแต่ แนวคิด เป้าหมาย และสิ่งที่เราอยากสื่อสาร

การเลือกประเภทที่จะใช้สื่อสาร

เช่น คุณชอบเขียน ก็เขียนให้ดี

Post เรื่องที่คุณต้องคิดว่าน่าสนใจ และเป็นประเด็นที่คนอยากอ่าน และทำซ้ำๆ

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักจะเกิดจากเรื่องที่เราทำในสิ่งเล็กๆอย่างสม่ำเสมอนี่แหละ

5.การวางแผน จุดพีคสุด ในการทำ personal brand ก็คือแผน และเป้าหมาย

ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ passion ในการทำแบรนด์ของคุณไม่มีเป้าหมาย มันก็เป็นได้แค่งานอดิเรก ทำไปแบบดุ่ยๆ ไม่ศึกษาคนอื่นที่ทำ หรือคู่แข่ง ว่าเขาทำอะไร

การได้มีคู่แข่ง จะเป็นตัวที่ทำให้คุณจะต้องพัฒนาตัวเองไม่หยุด ดังนั้น จงหาคู่แข่งเสีย

การมีเป้าหมายอย่างตั้งใจ จะทำให้คุณมองไปข้างหน้าอย่างมีทิศทาง และรู้ว่าเรากำลังไปถึงไหนและขาดอะไร

จากประสบการณ์ผม คนที่ไม่มีเป้าหมาย ท้ายที่สุดก็จะจบลงที่ไม่เกิน 1 ปี ยิ่งธุรกิจของคุณมีคู่แข่งมากเท่าไหร่ การแข่งขันก็ยิ่งสูง ชนะได้ในช่วงแรกไม่ได้หมายถึงชัยชนะในระยะยาว ดังนั้น การมีแผนจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ถ้าคุณอยากจะทำ personal brand อย่างมีเป้าหมายในเชิงพาณิชย์ ผมแนะนำว่าคุณควรหาคนที่มีประสบการณ์ไว้คอยให้คำปรึกษาสักคน โดยเฉพาะการใช้สื่อด้านออนไลน์ เพราะการเปลี่ยนแปลงนั้น รวดเร็วเสมอ สิ่งที่เรารู้ในตอนนี้ อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ตกยุคไปแล้วในเวลาข้างหน้าเพียงแปบเดียว

ขอให้สนุกกับการทำแบรนด์ของตัวเองครับ

เราควรเรียนรู้อะไรจาก แบรนด์ใหญ่

07 Tuesday Nov 2017

Posted by brandchatz in brand value, brandingdiy, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

branding, marketing, technology

Learning from big brand chatz.001.jpeg

บางครั้งเจ้าของแบรนด์ก็มักจะมีมุมมองที่ว่า เราแบรนด์เล็ก เงินไม่เท่าแบรนด์ใหญ่

ทำให้บางทีก็ลืมไปว่า นอกเหนือไปจากเงิน แบรนด์ใหญ่ๆ เขามีแนวคิดบางอย่าง

ที่คุณอาจจะลองไปปรับใช้กับแบรนด์ตัวเองได้

ลองมาดูว่า แบรนด์ใหญ่เขามีเทคนิค อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

1.คอนเท้นที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของเขาในหลากหลาย ตั้งแต่ วิดีโอสาธิต สอนการใช้สินค้า  รีวิว และการทำ คอนเท้นท์แนว ฟีดแบคต่างๆ

Learning from big brand chatz.002.jpeg

แบรนด์พวกอย่าง Apple,Samsung หรือพวก กล้องทั้งหลาย รวมถึง สินค้าแนวเทคโนโลยี่มักจะใช้วิธีนี้กันเพื่อให้คนเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายมากขึ้น จริงๆมันก็สามารถเอาไประยุกต์ได้กับทุกประเภทนั่นแหล่ะ แม้แต่คุณจะทำนมเด็กก็ตาม

2.ความถี่ในการลงคอนเท้นท์ใน สื่อออนไลน์

Learning from big brand chatz.003.jpeg

จำนวนการลงสื่อออนไลน์ของแบรนด์ใหญ๋โหดมโดยเฉลี่ย ทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์นอก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจไหนก็ตาม ที่ถ้าทำออนไลน์แบบจัดเต็มแล้ว มักจะใช้ความถี่แถวนี้

คุณอาจจะบอก พี่ครับ จะบ้าหรอ ลงแบบนั้น ผมคงไม่ต้องทำอะไรพอดี

แต่ผมกำลังจะบอกคุณว่า แสดงว่า การเห็นของแบรนด์ด้วยจำนวนครั้งต่อการจดจำ มันมีผล

ยิ่งคุณลงน้อย เกินไป ย้ำว่าน้อยเกินไป ความจดจำในแบรนด์มันยิ่งยาก

คนสมัยนี้ จำยากขึ้น เพราะมีเรื่องให้จำเยอะ

บางที ไม่จำด้วย  ดังนั้น เรื่องของความถี่ จึงมีประเด็น

3.การสร้าง Brand Personality

บุคลิกของแบรนด์ใหญ่ มักจะมีความชัดเจน ในเวลาสื่อสาร ทำให้ลูกค้าจำได้ง่าย

Learning from big brand chatz.004.jpeg

การควบคุมแบรนด์ต่อทุกช่องทาง ของแบรนด์ใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ

เพราะนอกเหนือไปจากเรื่องการจดจำแล้ว

ยังเป็นเรื่องลดความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไม่ให้แบรนด์เสียชื่ออีกด้วย

Campaign ของ Coca Cola หรืออย่าง Burgerking เป็นการสะท้อนตัวตนของ Brand

อย่างต่อเนื่อง

Learning from big brand chatz.006.jpeg4.Hastag ยังเป็นเครื่องมือสำคัญ

 

 

แบรนด์อย่าง Always,Redbull เป็นตัวอย่างทีดีในการสร้าง Hastag #likeagirl

ที่ถือว่าได้กระแสไปเยอะมากใน คลิปวิดีโอยูทูปที่มีวิวระดับหลักล้าน

เพราะการติด Hastag สามารถทำให้คนที่เขาประทับใจในคอนเท้นท์ของแบรนด์

สามารถเข้ามามีส่วนร่วมและทำให้แบรนด์ได้พลังของการต่อยอดจากคนที่ดูคอนเท้นท์และ

ส่งต่อแบรนด์ออกไป

5.การสร้างชุมชนของแบรนด์

Learning from big brand chatz.007.jpeg

แบรนด์อย่าง Fitbit และแบรนด์กล้องยี่ห้อดังต่างๆ เช่น Canon,Fuji,Olympus,Sonyล้วนสร้าง group ปิด และกลุ่มเฉพาะ

เพื่อสร้างให้เกิดการสื่อสารที่ลึกและเป็นเรื่องของสินค้า บริการอย่างลึกซึ้ง

นอกเหนือไปจากเป็นการย้ำให้เกิดการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์แล้ว

ยังเป็นการสร้างคอนเท้นท์ด้วยตัวของผู้ใช้เองอีกด้วย

Resource:บางส่วนจาก https://neilpatel.com/blog/big-brand-marketing-lessons/?utm_content=buffer3dc44&utm_medium=social&utm_source=twitter.com&utm_campaign=buffer

เคสการตั้งราคาของรองเท้า ADIDAS

18 Tuesday Jul 2017

Posted by brandchatz in brand value, marketing, sport, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

adidas, brand, marketing, pricing, retail

3f78ea9debb291c40112d7d6273637d4--shoe-shop-adidas-originals.jpg

การได้ทำคลาสและมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมกันทำคลาสถือเป็นบุญกุศลผมเป็นอย่างยิ่ง

และคลาสที่เพิ่งจบลงไปผมก็ได้มีโอกาสเรียนรู้จากคนเก่งท่านนึง ก็คือ

พี่ทาโร่   เลิศวัฒนรักษ์     ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจ นักเขียนหนังสือ เรื่อง มีบางอย่างที่ผิดในธุรกิจ และความเก่งของพี่เขาก็คือ การอ่านธุรกิจ โดยเฉพาะในเรื่องการดูงบการเงิน

wrong.jpg หนังสื่อพี่ทาโร่

.

พี่ทาโร่ ถ้าคุณจะสำเร็จในธุรกิจ คุณต้องดูให้เป็น เพราะไม่งั้น ปลายทาง คุณทำงานไปเหนื่อยแทบตาย อาจไม่เหลือเงินเลยก็ได้

.

จริงๆหัวข้อที่เรา Live ด้วยกัน จะเป็นเรื่องของ Pricing และก็มีตัวอย่างนึงที่มีประโยชน์

อย่างยิ่งต่อทุกท่านที่ทำธุรกิจ

มีเคสนึงเป็นของ แบรนด์ที่ชื่อว่า Adidas ซึ่งทุกคนน่าจะรู้จักกันดีเพราะเป็นแบรนด์กีฬาระดับโลก

.

หลายๆคนที่เคยซื้อรองเท้ายี่ห้อ Adidas น่าจะพอเดาๆ ราคาโดยประมาณได้นั่นก็คือ อยู่ที่

2000 กว่าบาทไปจนถึง 3xxx บาท หรืออาจะแพงกว่านั้น แต่โดยเฉลี่ยก็อยู่ราวๆนี้

.

คิดเป็นเงิน$ ก็เฉลี่ยตกประมาณ 100 เหรียญ ของราคาขายตามห้าง

.

ต้นทุนของรองเท้า(COGS) ที่ADIDAS ผลิตนั้น อยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 20 เหรียญซึ่ง

ผมว่าหลายคนก็รู้

.

แแต่อันนึงที่ทุกคนที่ผมไม่แน่ใจว่าจะรู้หรือไม่ว่า กำไรต่อคู่ที่ Adidas นั้นได้รับตกอยู่เพียง

2 เหรียญเท่านั้น!!!   

.

ผมถามพี่ทาโร่อยู่ซะหลายรอบ เพราะตัวเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าทำไมมันเหลือน้อยจัง

อย่างน้อยไม่เหลือสัก 5 เหรียญละ ดีกว่า 2 ตั้งเยอะ

.

พี่ทาโร่แกเล่ามาแบบนี้ครับ

การขายเข้าห้าง ซึ่งคนที่ทำธุรกิจ retail หรือขายของกะห้างจะพอเข้าใจว่า มันมีเรื่องของ

Supply chain ที่จะต้องจ่ายออก รวมถึงค่าการตลาด  และค่าอื่นๆอีกทั้งขนส่งและค่าคน

รวมถึง Brand ambassador (ซึ่งอาจจะได้เงินต่อคู่มากกว่าเจ้าของแบรนด์ด้วยซ้ำ)

.

ซึ่งหลายคนมักจะมองว่า ทำไม ห้างถึงต้องเอากำไรเยอะขนาดนั้น ไม่ยุติธรรม อันที่จริง

ธุรกิจแต่ละประเภทต่างก็มีธรรมชาติของมัน. ถ้าคุณไปทำห้างคุณก็จะพอรู้เองว่าทำไมห้างจึงต้องเอากำไรมากขนาดนั้น (เอาไว้ว่ากันวันหลัง)

.

แต่ประเด็นที่ผมอยากจะสื่อก็คือ การตั้งและกำหนดราคา นั้น ต้องรู้จักลักษณะธุรกิจให้ดีและชัดเจนจึงจะมองภาพออกว่า ราคานั้น เป็นเรื่องของการรับรู้ของผู้ซื้อ มิใช่สิ่งที่เราอยากจะกำหนดเท่าไหร่ก็ได้

.

เพราะไม่งั้น Adidas คงอยากขึ้นราคาเพื่อให้ได้กำไรมากกว่า 2 เหรียญ

.

บางครั้งการตั้งราคา เพื่อเพิ่มอีกเพียง 5 เหรียญ อาจจะมีผลต่อการลดลงของยอดขาย อีก 5%

.

ซึ่งก็ไม่รู็บางที. การลดต้นทุนลง 5 เหรียญ อาจจะทำให้คุณได้กำไรมากกว่าก็เป็นได้

.

ดังนั้น. การตั้งราคาจึงเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และข้อมูลจากลูกค้าที่มากพอก่อนตัดสินจึงจะดีที่สุด

.

บางครั้ง. การตั้งราคา มันไม่ใช่เรื่องของเรา  แต่มันเป็นเรื่องของเขาที่เราจะต้องรอด

เครดิตรูป จาก

https://www.pinterest.com/jrmtexas/cars-saleens/?lp=true

เคล็ดลับ 2 Sided-Platform ที่ทำให้แบรนด์ดัง

Featured

Posted by brandchatz in brand value, branding, Entrepreneur, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

application, brand, growthhack, platform, technology

brandchatz 2side.001.jpeg

#มีคนถามว่าแบรนด์ธุรกิจแบบไหนเป็นช่วงขาขึ้นที่สุด
ส่วนตัวผมอยากจะบอกว่า ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์แบบสองด้านนี่แหล่ะ(Two-sided online Platform) มาแรงและปั๊มเงินได้เยอะสุดแล้ว(Growth hacking)
แบรนด์ดังๆ ก็ AirBnB, Etsy,Uber,Grab และอีกหลายๆแบรนด์ในปัจจุบันก็หันมาทำรูปแบบนี้มากมาย อย่างเมืองไทยก็ Fastwork.co,wongnai พวกนี้เป็นต้น
 
ข้อสังเกตุของธุรกิจแพลตฟอร์มแบบนี้ที่น่าสนใจคือ
1.รวบรวมทั้งสองด้านก็คือ ฝั่งคนให้บริการ และฝั่งคนหาบริการเข้ามาอยู่ในที่เดียวกัน
2.มีการจัดการเรื่องของ Search keyword ที่ครบถ้วนตามความต้องการในการซื้อและการขาย ใครใครซื้อก็ซื้อ ใครใคร่ขายก็ขายเลือกได้
3.มีรูปแบบที่ทันสมัยและlifestyle การใช้งานนั้นตรงกับคนในปัจจุบันที่ต้องการที่รวมเพื่อให้เราได้หาทุกสิ่งอย่างในที่ที่เดียว
 
แต่กลยุทธ์ที่สำคัญของทุกแบรนด์ก็คือ คุณจะหาจุด ขยาย หรือ Growth hacking ให้เจอในวิธีการใดแและแบบไหน จนกลายเป้นธุรกิจระดับหลักรอ้ยล้าน 1,000 ล้าน
 
สิ่งที่เป็น Key Success Factor ของธุรกิจคือเรื่องนี้
แต่สิ่งที่เป้น Key success Factor ของการสร้างแบรนด์มักจะอยู่ตรงที่
 
1. คุณค่าร่วม Share value ที่ทุกคนได้ประโยชน์จากคุณ ไม่ว่า ถูกลง แก้ปัญหาได้ ใช้ง่าย เร็ว หรือ บลาบลาบลา
 
ข้อ 2. ข้อนี้สำคัญ ก็คือ ความเท่ ความแปลกใหม่ และความมีกึ๋นของ แบรนด์ที่แสดงออกมาในพฤติกรรมและบุคลิก
======
ผมอยากจะเอาข้อมูลการ Growth hacking ของ Airbnb ที่ได้จากการใช้ Database ของ Craiglist
มาให้อ่านเป็นไอเดียครับ (Craigslist เป็นเครือข่ายชุมชนออนไลน์ โดยให้บริการในการประกาศขายของออนไลน์ หางาน สมัครงาน หาคู่ และเป็น เวปบอร์ด พูดคุยในหลายๆด้าน
===================

Airbnb รู้ผ่านการวิจัยตลาดและประสบการณ์ของตนเองว่า Craigslist เป็นสถานที่

ที่ซึ่งผู้ที่ต้องการสิ่งอื่นนอกเหนือจากประสบการณ์ในโรงแรมระดับมาตรฐานมองหารายชื่อ

คำอื่น ๆ ตลาดเป้าหมายของ Airbnb

เพื่อที่จะเข้าสู่ตลาดนี้ Airbnb ได้นำเสนอผู้ใช้ที่ระบุคุณสมบัติบน Airbnb

โอกาสที่จะโพสต์ไปยัง Craigslist ได้เป็นอย่างดีแม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีทางทำนองคลองธรรมก็ตาม

Craigslist ให้ทำเช่นนั้น แม้ว่าจะค่อนข้างง่ายในการมองย้อนหลังการดำเนินการไม่ได้ง่าย

ในสาระสำคัญ Craigslist บันทึกข้อมูลรายชื่อโดยใช้ URL ที่ไม่ซ้ำมากกว่าคุกกี้ เพราะว่า

 Airbnb สามารถสร้าง botb เพื่อเข้าชม Craigslist ขัดขวาง URL ที่ไม่ซ้ำกันป้อนข้อมูลรายชื่อและ

ส่งต่อ URL ไปยังผู้ใช้เพื่อเผยแพร่ ด้านอื่น ๆ ของการรวมกลุ่มนี้ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายอีกด้วย

บอทยังต้องกรอกหมายเลขของรูปแบบที่ง่ายที่สุดคือประเภท Craigslist ภูมิภาคที่เฉพาะเจาะจงได้รับการพิสูจน์

เนื่องจาก Craigslist มี Craigslist หลายรุ่นหลายร้อยรุ่นซึ่งมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า

อื่น ๆ เช่นภูมิภาคย่อยๆภายในภูมิภาคสำหรับ Bay Area และอีกหนึ่ง Craigslist สำหรับทั้งโดเมน

รัฐเมน ซึ่งหมายความว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นเชคทุก Craigslist และขูดชื่อและรหัสสำหรับทุกภูมิภาค

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับอีเมลที่ไม่ระบุตัวตนที่ได้รับมอบหมายจาก Craigslist ฟังก์ชั่นนี้มี

ที่จะปิดและแทนที่ด้วยการเชื่อมโยงไปยังรายชื่อ Airbnb และเพื่อให้มั่นใจว่ารายการดังกล่าวโดดเด่น

ระหว่างค่าโดยสาร Craigslist มาตรฐานการสนับสนุน HTML ของแพลตฟอร์มที่ จำกัด ต้องได้รับการพิจารณา

ประโยชน์ของการรวม Airbnb-Craigslist เป็นจำนวนมาก ไม่เพียง แต่เป็นปริมาณที่แท้จริงเท่านั้น

ของศักยภาพที่สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Craigslist แต่ที่จริง Airbnblistings อื่น ๆ

คุณสมบัติที่พร้อมใช้งานมากขึ้นส่วนบุคคลมีคำอธิบายที่ดีขึ้นและภาพถ่ายที่สวยงามยิ่งขึ้นทำให้พวกเขาได้มากขึ้น

ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ Craigslist ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อน

เมื่อผู้ใช้ Craigslist ทำการสลับผู้ใช้เหล่านี้มักจะไม่สนใจ Craigslist และหนังสือ

ผ่าน Airbnb ในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีผู้ที่มีคุณสมบัติอยู่ใน Airbnb ด้วย

ทำรายได้มากขึ้นในรายการของพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขาใช้บริการอีกครั้งและอีกครั้ง

=======================

เป็นส่วนหนึ่งที่ผมทำการแปลและคัดลอกมาจาก Case ของ Harvard business School

Credit:ขอบคุณน้อง จูน แห่ง Metta group ครับสำหรับ Case  😀

ไม่เคยมีคำว่าดีที่สุด มีแต่คำว่าดีกว่าในโลกธุรกิจ

04 Saturday Feb 2017

Posted by brandchatz in brand, brand experience, brand value, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

เวลา, brand, business, businessdevelopment, technology, time

better one word.001.jpeg

เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องสมมุติ

ในวันนึงที่ผมได้ ซื้อรองเท้าวิ่งรุ่นที่ใหม่ที่สุด

แต่เนื่องจากว่ายังไม่มีโอกาสได้วิ่งมากนัก

ทำให้ก็ยังไม่มีโอกาสได้ใส่

จากวันนั้น ผ่านมาเกือบแปดเดือน

ผมก็ได้มีโอกาสมีเวลาเหมาะๆ

ผมหยิบรองเท้าที่ใหม่ล่าสุดของผมออกมา

ด้วยเทคโนโลยี่ที่รองเท้ารุ่นนี้บอกไว้

ว่าสามารถเกาะพื้นได้ดีและเบา

ทันทีที่ผมมาถึงสนามวิ่ง

รองเท้าที่ผมคิดว่าใหม่มากๆสำหรับผม

กลายเป็นรองเท้าที่เชยไปทันที เมื่อเทียบกับเพื่อนนักวิ่งคนอื่น

==================

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกกับคุณทุกคนว่า

ในบางครั้ง เราเคยมั่นใจในสิ่งที่เรามี ว่าดีที่สุด

แต่เพียงแค่เวลาผ่านไป มันก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว

สิ่งที่เคยดีที่สุด ต่างมีเวลาเป็นปัจจัย

ตัวอย่างที่ โหดสุด ก็คือ โนเกีย

สิ่งที่โนเกีย ล้มเหลว ก็คือ

การยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ

โดยไม่ได้ลงไปดูกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ว่าเวลาที่ผ่าน คู่แข่งและเทคโนโลยี่

ได้วิ่งไปรวดเร็วแค่ไหน

เพราะลูกค้านั่น ต้องการแต่สิ่งที่ดีกว่า

และใครที่ทำได้ดีกว่า

ก็คือผู้ชนะ

เพราะจริงๆแล้ว ไม่เคยมีสิ่งที่ดีที่สุด

ต่อให้วันนี้คุณบอกว่าคุณดีที่สุด

แต่ก็จะมีคนที่ดีกว่า เกิดขึ้นมาเสมอ

โปรดอย่าได้โปรด ยึดมั่นหรือเชื่อกับสิ่งใด

แม้นว่า วันนี้ สิ่งที่คุณมี มันอาจจะเคยเป็นจุดแข็ง

กับธุรกิจของคุณ แต่วันข้างหน้า ย่อมเปลี่ยนแปลง

เพราะการแข่งขัน โดยเฉพาะเวลา

ไม่เคยปราณีใคร #consistency

===========================

5 สิ่งที่พึงกระทำ

1.สร้างระบบการพัฒนาปรับปรุงในสินค้าและแบรนด์เสมอ

2.มีการทำตัวเป็นนักสืบกับคู่แข่งของคุณว่าทำอะไรกัน

3.ใส่ใจกับการแก้ปัญหาที่เล็กๆน้อย ในวันนี้ที่สินค้าหรือแบรนด์ยังทำไม่ได้

4.มองหาคนเก่ง หรือเทคนิคใหม่ๆเพื่อต่อยอด

5.ใช้ความรู้จากวงการอื่นมาเติมในวงการสินค้า หรืออุตสาหกรรของเรา

ทำแบรนด์ให้เป็นคน

24 Saturday Sep 2016

Posted by brandchatz in brand value, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

แบรนด์, brand character, Brand value, Branded, branding

brandlive-001

ยิ่งสินค้าที่อยู่ในตลาดมีมากขึ้นเท่าไหร่ การจดจำสินค้าว่าแบรนด์เป็นอย่างไรยิ่งลำบาก

ดังนั้น เพื่อให้แบรนด์มีมิติ น่าสนใจและเข้าไปอยู่ในใจคนได้เร็วที่สุด มากที่สุด

การสร้างให้แบรนด์มีชีวิตราวกับคนจึงเป็นวิธีที่หลายแบรนด์นิยม

มาดู 5 แนวทาง วิธีการที่จะทำให้แบรนด์กลายเป็นคน และมีเสน่ห์ให้คนจำได้มากขึ้น

  1. หาคำนิยม หรือkeyword ที่คุณจะบ่งบอก ลักษณะความเป็นของคุณให้ชัดเสียก่อน

เช่น Disney จะมี 3 คำนี้ ที่บ่งบอกแบรนด์ได้ชัด คือ Fun Family Entertainment

      หา 3 คำที่บ่งบอกบุคลิกแบรนด์คุณที่ชัดเจน

brandlive-002

2.สร้างความรู้สึกและจิตใจให้แบรนด์ด้วยการเขียน Mental map เช่น  BMW

กำหนดหัวข้อของ Mental Map ว่า จะต้องประกอบด้วย Luxury Image

High Performance และต้องเป้นรถที่มี Stylish และมีพลัง Powerful

รวมถึง มีประสิทธิภาพ Efficiency ที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน heritage

brandlive-003

3.หา Personality ของแบรนด์โดยเทียบเคียงกับบุคลที่มีชื่อเสียงหรือเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก

เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับทุกคนได้ง่ายขึ้น

brandlive-004

4.Brand Voice เป็นสิ่งที่จะทำให้แบรนด์เข้าใกล้ความเป็นคนมากขึ้น การมีเสียงของแบรนด์

ยิ่งจะทำให้สร้างความรู้สึกต่อแบรนด์และสาวกได้มากยิ่งขึ้น การหาคำพูดคมๆให้แบรนด์คุณ

หรือยิ่งมีบุคลิกของเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยแล้ว จะยิ่งผูกแบรนด์ให้ติดกับสาวกได้มากขึ้น

brandlive-005

5.Brand Value นอกเหนือจาก Functional value+Emotional Value ที่ต้องมีแล้ว

ในยุคนี้ การสร้างคุณค่าให้กับสังคม หรือ Socail Value เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะสามารถ

เรียกสาวกที่จะเดินเข้ามาศรัทธาความขลังของแบรนด์คุณได้อย่างรวดเร็ว

brandlive-006

Credit Pict

http://wersm.com/why-do-people-follow-brands-on-facebook/

https://www.google.co.th/search?q=brand+social+value&espv=2&biw=1274&bih=629&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwjZxtaqxqjPAhVGLo8KHfA2AvMQ_AUIBigB#tbm=isch&q=best+brand++social+value&imgrc=aFHkHrgSBvMzrM%3A

Luxury brand คืออย่างไร

22 Friday Apr 2016

Posted by brandchatz in brand value, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

luxurybrand, ruchitta

ruchitta

เมื่อวานได้เจอกับน้องหญิงแห่ง ruchitta

กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทยที่กำลังจะมีโอกาสเติบโตอย่างมาก

เราคุยกันเรื่องประเภทของแบรนด์

ว่า เราอยากเป็นแบรนด์แบบไหน

ผมเลยนั่งสรุปให้น้องหญิงฟังออกมาเป็นแบบนี้

ราคาไม่ใช่ข้อกำหนด

ลดความลังเลของลูกค้าลง

หาสาวก ให้เจอ เพื่อเชคคุณค่าที่แท้จริง

Brand Luxury ไม่มีการเปรียบเทียบ เพราะมันเปรียบไม่ได้

“This is what i am Not that Depend”

เข้าใจอารมณ์ของความเป็นหนึ่งเดียว

เหมือนกับ สิ่งที่ ศิลปินเป็น กระเป๋า Chanel ก็เป็นแบบนั้น

มันเป็นหนึ่งเดียว คำว่า ตัวตนของ Chanel มัน เป็นอื่นไม่ได้

แบ่งแยกไม่ได้ ต่อรองไม่ได้ แทบไม่ต้องคิดถึงคู่แข่ง

Luxury Strategy

เป็นการใช้กลยุทธ์กำหนดมูลค่าของแบรนด์ที่สูงที่สุด และการใช้อำนาจของราคา ด้วยการนำเอา

องค์ประกอบด้านอารมณ์มาเป็นตัวทวีคูณของความเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ประวัติความเป็นมา

ระยะเวลา แหล่งกำเนิดของประเทศ ความเป็นช่างฝีมือ ใช้มือคนผลิต ผลิตน้อย เป็นสิ่งที่เฉพาะพิเศษเท่านั้น เป็นต้น

Fashion Strategy

กลยุทธ์แฟชั่นเป็นอะไรที่แตกต่างจาก Luxury โดยสิ้นเชิง คำว่า คุณค่าของระยะเวลาแทบไม่มีความหมาย เพราะ

สิ่งที่เป็นแฟชั่นนั้นเน้นเรื่องของความเป็น trend สมัยนิยม ความเข้าใจของสิ่งที่มาเร็วไปเร็ว กระแสความฮิตของสิ่งของ

ดนตรีภาพยนตร์การเมืองเทคโนโลยี่หรือเรื่องราวที่สังคมกำลังให้ความสนใจณตอนนั้น

Premium Strategy

กลยุทธ์ Premium เป็นเรื่องของการเปรียบเทียบราคาอย่างชัดเจน คือ จ่ายมากกว่าได้ของดีกว่า เป็นแนวคุณของการให้คุณค่า

ตามราคาของสินค้าว่านี่คือของที่ดีที่สุดของกลุ่มสินค้า นั้นๆ ตามแนวคิด จ่ายมาก ได้มาก

ของหรูหรา ต้องสร้างหรู อยู่ให้ถูกที่ ไม่มีของแบบอื่นมาปะปน

สร้าง Status Story ให้เกิด เพราะเป็นเรื่องจำเป็น

หา Signature ของ Design ให้เป็น identity

สร้าง Culture ของแบรนด์ให้เกิดการรับรู้และอยากร่วมประสบการณ์

Personality คือเรื่องที่เป็นลักษณะเด่นที่ luxury แบรนด์ต้องดึงออกมา

Strategy luxury brand ที่ควรหาวิธีสร้าง

Identity Design (Innovation)

Brand Image ถ้าเป็นแบรนด์ไทยก็ควรหาพวก Nation identity หรือ Asian Look อาจจะ Unique กว่า

Brand Extension ขยายสินค้า ประเภทอื่นๆออกไป

Brand Loyalty สร้างความเชื่อถือ จงรักภักดี (อันนี้คงต้องว่ากันยาว เอาไว้เล่ารอบหน้า)

แบรนด์บางแบรนด์สามารถสร้างให้สินค้ากลายเป็นสินทรัพย์ได้

เช่น

Hermes สินค้า = สินทรัพย์  ราคาของกระเป๋า ยิ่งนาน ยิ่งแพง

แบรนด์คุณจะเป็นอะไรที่มากกว่า

15 Tuesday Mar 2016

Posted by brandchatz in brand value, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

branding

Cultural brand4-01

การใช้ความคิดเพื่อการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าแค่ผลิตสินค้า

ถ้าคุณคิดแค่ทำของให้ดี แล้วลดราคาเอาเพื่อสู้กะตลาด

วันนึง คนก็มองคุณเป็นสินค้าราคาถุก

คนไม่ได้รู้หรอก ว่าของคุณมันดีรึป่าว แต่คุณค่า มันถูกตีราคาตั้งแต่วิธีคิดคุณ

ถ้าคุณอยากยกระดับตัวแบรนด์คุณ คุณควรเริ่มต้นตั้งแต่ความคิด

สิ่งที่มีอยู่ ทำให้ดีขึ้น สิ่งที่อาจไม่เคยมี แต่ถ้ามันเกิดจากเรา ทำไมเราจะไม่เอามันออกมาล่ะ

จงคิดให้มากกว่า  แตกต่างกว่า มีคุณค่ากว่า มีบุคลิกกว่า ให้มากกว่า

แล้วแบรนด์คุณจะเป็นอะไรที่มากกว่า

การทำ Brand Relationship

09 Wednesday Mar 2016

Posted by brandchatz in brand value, Uncategorized

≈ Leave a comment

 การทำ Relationship marketing มีความสำคัญมาก เพราะแทบจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้พัฒนาไปถึง Brand Trust เลยทีเดียว เพราะถ้าทำได้ โอกาสที่จะได้สาวกที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ก็มียาวๆ

ผมเขียนกลยุทธ์ของการทำ Relationship แบบเข้าใจง่ายๆ ให้เหมือนเข้าใจ Key Driver ที่จะเอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือ

กลยุทธ์ เชื่อม ต่อ ติด

เชื่อม  ให้นึกถึง ออนไลน์/FB,Line,  เราเริ่มต้น จากโลก online หรือ กิจกรรมการตลาดที่เราเริ่มต้นสร้างเพื่อเปิดเกมเชื่อมสัมพันธ์

ผูก  การมีของแลกเปลี่ยน ทั้งจับต้องได้ หรือจับต้องไม่ได้ เช่น ความคิด หรือ ของใช้ อุปกรณ์  เพื่อเกิดความรู้สึกส่งต่อส่งมอบกันตัวต่อตัว ให้ลูกค้าเป็นคุณค่าและ benefit

ติด  เป็นขั้นตอนผูกแน่น โดยสร้างมิติความสัมพันธ์ในลักษณะแบบประทับใจร่วมในที่สาธารณะ  เช่น ทีมฟุตบอลไทยไปชนะเลิศทีมเอเชียท่ามกลางแฟนบอลกว่า 50,000 ในวันนั้น อย่างนี้ แฟนบอล 50,000 คนจะได้ถูกผูกติดอย่างแน่นหนาไปเรียบร้อย  (ในข้อนี้ควรสร้างให้เกิดในที่สาธาณะที่มีคนร่วมรับรู้มาก  ยิ่งเกิดความติดในแบรนด์ได้มาก) ดังนั้น การทำทำ brand participation ด้วยกิจกรรมที่ให้เห็นคุณค่าของแบรนด์ และเป็นประโยชน์ต่อเขาโดยตรง ทั้งการใช้สินค้าหรือบริการ จะเป็นเงื่อนไขที่สุดยอดที่สุด!!!!

การสร้าง relationship สำหรับ brand 

ลองเชคดูระหว่างบริษัทและลูกค้า ได้มีหัวข้อต่างๆที่เขียนไว้ และข้อไหนได้ทำไปแล้ว หรือยังไม่ได้ทำ

ลองเอาไปตรวจดู และถ้ายังขาดอยู่ ควรทำเพิ่มให้ครบ  จะทำให้การสร้าง Brand relationship และพัฒนาเป็น Brand trust มีสูงขึ้น

มุมมองของบริษัท

  1. ความเชื่อถือ/ส่งมอบสัญญา
  2. Interaction/แบรนด์สร้างมุมมอง การสื่อสาร รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูดเมื่อไหร่ควรฟัง เข้าใจความเป็นส่วนตัว จริงใจ  ซื่อสัตย์มีศีลธรรม
  3. ความรัก (ความสนิทสนม) แบรนด์ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับลูกค้าและสามารถและปรับให้ตรงกับความต้องการ
  4. มีส่วนร่วม  ระดับของความผูกพันกับประสบการณ์ของสินค้า  ที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวก  ในเวลาที่ทำโปรโมชั่น และส่งต่อ
  5. ความรู้สึกซาบซึ้ง  ขอบคุณที่ได้รับการสนับสนุน การจดจำ และการตอบโต้เพื่อแสดงออกถึงการขอบคุณ

มุมมองลูกค้า

  1. เชื่อใจ/มั่นใจในแบรนด์ที่ส่งมอบสัญญาต่อลูกค้า/ความคุ้นเคย/ลดทอนความเสี่ยง/
  2. การปฏิสัมพันธ์/ความไม่ยุ่งยาก/ความรู้สึกและประสบการณ์ของสังคมต่อการใช้แบรนด์ อยากที่จะเริ่มต้นสื่อสาร
  3. ความมุ่งมั่น/ ความเชื่อมั่น/ความซื่อสัตย์/ผูกติดกับแบรนด์/อยากสนับสนุนและแสดงออกให้เเห็นว่าอยากสนับสนุน
  4. LOVE/ความรู้สึกที่มีมากกว่าชอบ ความรู้สึกที่ต่อ Brand ในเชิงบวกมากๆ
  5. ความมีส่วนร่วม/ระดับการติดกับ Brand/รักในตัวตนของแบรนด์/บุคลิกน่าสนใจ/โดดเด่น/สัมพันธ์กับชีวิตของผู้บริโภค
  6. ความพอใจ  การประเมินผลของประสบการณ์แบรนด์สามารถเติมเต็ม  ความรู้สึกความต้องการ/ประหลาดใจ/และน่ารื่นรมย์
  7. ความตื่นเต้น/ส่งต่อพลังงานเปล่งแสง นำความเชื่อ หรือแสดงออกความเป็นผู้นำ
  8. chart-article.gif

 

หัวเหว่ยกำลังทำโทรศัพท์ที่มีกล้องที่ดีที่สุดในโลก

29 Monday Feb 2016

Posted by brandchatz in brand, brand value, Uncategorized

≈ Leave a comment

Tags

branding, huawei, leica, marketing

เพราะว่า หัวเหว่ย (huawei)กำลังจับมือ กับ leica เพื่อสร้างโทรศัพท์โดยมีทางไลก้าเป็นผู้พัฒนากล้อง โดยเป้าหมายที่ทางบริษัทพูดไว้ก็คือ “ความงามของโลกที่สมบูรณ์แบบ”

ใครที่เคยใช้กล้องไลก้า จะรู้ถึงคุณสมบัติที่ชั้นเลิศของกล้องเป็นอย่างดี กล้องญี่ปุ่นที่เราใช้อยู่หลายๆแบรนด์เทียบไม่ติดจริงๆครับ ทีนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องมาดูกันต่อไปว่า เมื่อเทคโนโลยี่นั้น ทางสองเจ้าน่าจะไปได้สุดล้ำแน่ๆ แต่ในทางการตลาด แบรนด์โทรศัพท์ที่มียอดขายอันดับ 3 ของโลก จะมีกลยุทธ์อย่างไรเพื่อขึ้นท้าชิงกับเจ้าตลาดอย่าง iphone และ Samsung

การร่วมมือของสองยักษ์ใหญ่ที่ต่างอุตสาหกรรมกันแบบนี้ย่อมมีนัยยะที่สำคัญแน่ ทางหัวเหว่ยเองโนดยทาง ฝ่าย

Consumer BG CEO นาย Richard Yu ก็บอกเลยว่าค่อนข้างภูมิใจที่ได้ทำงานกับทางไลก้า ซึ่งก็แน่นอนเพราะไลก้าคือตัวจริงเสียงจริง เป็นแบรนด์ไอคอนที่นักเล่นกล้องทั้งหลายไฝ่ฝัน

ทางไลก้าเองโดย Leica Camera AG CEO Oliver Kaltnerก็หยอดกลับไปทาง หัวเหว่ยเช่นกันว่า การที่หัวเหว่ยได้เข้าร่วมโปรเจคครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ได้เข้ามาในตลาดที่มีมูลค่าสูงอย่างโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็เป็นโอกาสสำคัญที่ทางไลก้าจะได้เห็นแง่มุมของอุตสาหกรรมใหม่ที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน อีกทั้งยังเป็นการเปิดตลาดใหม่ของทางไลก้าอีกด้วย

แน่นอนว่า มีผลบวกกับทั้งคู่ เอาง่ายๆงานนี้คนที่เป็นสาวกไลก็าซึ่งมีไม่น้อย จะต้องตามไปลองใช้หัวเหว่ยกันอย่างแน่นอน

รอลุ้นกันต่อไปครับ คนชอบซื้อมือถือเตรียมเงินรอได้เลยhuawei

 

← Older posts

Articles

blogger

  • brandchatz
March 2021
M T W T F S S
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031  
« May    

Goodreads

Blogs I Follow

  • Myopic Life
  • ที่นี่มีเรื่องเล่า
  • VAGABOND CITY
  • Musing
  • surface & surface
  • sarahgoodreau
  • Riffs on technology, marketing & culture
  • brandchatz

Blog at WordPress.com.

Myopic Life

Can't see all that far down the road...

ที่นี่มีเรื่องเล่า

by @somchartlee

VAGABOND CITY

A digital space feat. poetry, art, nonfiction, interviews, and reviews by marginalized creators.

Musing

A publication of Parnassus Books

surface & surface

Art & Design Choice Cuts

sarahgoodreau

things and not things.

Riffs on technology, marketing & culture

(with an occasional randomness thrown in)

brandchatz

World changing by branded